Part II: Dali เที่ยวไปบ่นไป

ฉบับต้าหลี

งานนี้นางจัดมาเต็ม ขอสรุปสั้นๆ เป็นหัวข้อ

  • บ่นที่หนึ่ง: ถ่ายรูปยากมาก เพราะเจ้าบ้านเค้าไม่สนใจคนหามุมกล้อง คนถือกล้องต้องเดินอ้อมคนผ่าน
  • บ่นที่สอง: ไม่มีมารยาทในการใช้ถนน เคารพกฎจราจร ทั้งคนขับรถและคนเดิน
  • บ่นที่สาม: “ที่เค้าลอกว่าเจ๊กขากถุย วันนี้เข้าใจแล้ว ไม่รุ้มีปันหาที่ช่องคอหรือหลอดลมอะไรยังไง ถุยแม่งอยุ่นั่น”
  • บ่นที่สี่: เหม็นบุหรี่ทั้งเมือง นางจะมาสูดอากาศบริสุทธิ์ มารับเอาอากาศกรองจากมวลกองทิพเลยค่ะงานนี้
  • บ่นที่ห้า: สื่อสารกันใช้ภาษาอัลไล ถามอิ้งตอบจีน มองบนสิงานนี้
  • บ่นที่หก: อาหารทั้งแป้งทั้งมัน บอกว่าจะอ้วนแน่ๆ (ขนาดนี้แล้วก็อ้วนได้อีกเหรอ) 555

    17757941_950105405125494_426046188_n

    นสส โปะพิมเสนป้องกัน smoke เพื่อคอยู่รอด

ถึงแม้นางจะชุดใหญ่ขนาดนี้ต้าหลีก็มีความสวยงามที่ทำให้หมวยหยุดบ่นชั่วคราวเพื่อชื่นชมในบรรยากาศท่องเที่ยว บางทีก็คิดว่าคุ้มกับที่ต้องเจออะไรหลายๆอย่างในความเป็นท้องถิ่นของมลฑลญยูนนาน นางมีอะไรดีๆเยอะที่หนูมองข้ามเรื่องบ่นต่างๆนี้ไปได้ 555

The Three Pagodas of Chongsheng Temple – (วัดสามเจดีย์ )
แต่…เจดีย์อยู่ไหน

17857888_950791521723549_1180645018_n

บรรยากาศร่มรื่น ช่วงนี้นางเข้าวัดเข้าวาบ่อยจริงๆ ธรรมะธรรมโม

เจดีย์สามองค์ถูกสร้างขึ้นครั้งแรกเพื่อเป็นสิริมงคล ตามตำนานท้องถิ่นต้าหลี่เคยเป็นหนองน้ำที่อาศัยอยู่โดยการเพาะพันธุ์มังกรก่อนที่มนุษย์จะมาถึง ในฐานะที่เป็นมังกรซึ่งเชื่อกันว่าเป็นการจงใจสร้างภัยพิบัติทางธรรมชาติเพื่อขจัดผู้บุกรุกมนุษย์เจดีย์ที่เคารพเจดีย์สามองค์ถูกสร้างขึ้นเพื่อยับยั้งมังกร

คืออ่านไปก็ยิ้มไป เห้ยย ตอนเป็นเด็กอยู่ขอนแก่นดูเค้าเชิดสิงต์โต นี่สงสัยมาจากตำนานวัดนี้แน่เลยยย 555+

17842496_950707138398654_432397473_n.jpg

เจดีย์อยู่นี่ค่าา นั่นมังกรหรืออัลไลทำไมนรจัง

เมืองเก่าต้าหลี่อยู่บนที่ราบสูงระหว่างเทือกเขาเป็นที่ตั้งถิ่นฐานของชาวไป๋และชาวอี้มาตั้งแต่สมัยโบราณ เคยเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรน่านเจ้า และยังเป็นศูนย์กลางการเคลื่อนไหวของกลุ่มกบฏชาวจีนมุสลิม มีชื่อเสียงในฐานะเป็นแหล่งผลิตหินอ่อนหลากหลายชนิด ซึ่งนำไปใช้ในการก่อสร้างและประดับตกแต่งอาคาร ทุกวันนี้ต้าหลี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ ซึ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งจากในและต่างประเทศ เป็นเมืองท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมที่สุดแห่งหนึ่งของมณฑลยูนนาน โดยมีชื่อเสียงมาจากแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์

จริงๆแล้ว ถ้าจะเที่ยวเมืองจีนนี่คือนานมาก นานมากในที่นี้คือสถานที่ต่างๆ เมืองต่าง ล้วนมีที่มาที่ไป มีประวัติศาสตร์ กว่าจะดูตามหมวยว่าไปที่ไหนบ้างต้องอ่านที่มาที่ไปย้อนไปถึงสมัยไหนก็ม่ายรุ ทำให้เห็นจริงๆว่าเมืองจีนยุคสมัยใหม่ที่ปรับเข้ากับระบบการปกครองใหม่ตั้งแต่สมัยปฎิวัติของ chairman เหมา ทำให้เมืองจีนปรับตัว เปลี่ยนบุคลิกภาพในฐานะที่เคยเป็นประเทศนิยมระบบและวัฒนธรรมอารยะที่สืบเนื่องต่อกันมานาน กลายเป็นประเทศที่พัฒนาอย่างรวดเร็วภายในไม่กี่ generation

ซึ่งไม่แปลก ทำให้สิ่งที่หมวยประสบมาและบ่นในช่วงแรกของ blog นี้ นั้นก็คือผลทำตามมาก็คือการปรับตัวในทางเศรษฐกิจ ระบบสังคม และการปกครอง ยังไม่สืบเนื่องกัน แต่คงอีกไม่นานประชาชนก็คงจะเติบโตเข้าสอดคล้องกับการพัฒนา

17842371_951393801663321_306262339_n

มีดอกไม้มาฝากด้วย

หมวยบอกว่าวันนี้เหนื่อยมาก (ก็แหมเที่ยวเก่งขนาดนี้) เดินยับ มืดสองทุ่ม แต่นางก็ยังพร้อม ใจสู้ พรุ่งนี้พร้อมลุยขึ้นเขารับบรรยากาศ snow กัน ติดตามได้ที่ part III:

ภูเขาหิมะมังกรหยก

(ชื่อกะหนังจีนตอนบ่าย)

ก่อนไปขอฝากขนม

18009205_956242111178490_1965183932_n

ชื่อจำได้แค่ลงท้ายคำว่า ปาปา 2 สองคำหน้าม่ายรุ พะนะ

นางบอกว่า: ขนมอะไรสักอย่าง อารมประมาณแป้งไส้หมู มีต้นหอมด้วยนะแล้วก็เอาไปทอด
อร่อยอยุ่นะ ถ้าไม่มันมาก ที่จีนอะไรไม่มันบ้าง? .-.

สำหรับคืนนี้หมวยขอนอนก่อนนะ ❤

 

Leave a comment